Monday, November 7, 2016

“น็อต” กราบรถกู! เผย ชกเพราะป้องกันตัว หลังแจ้งความกลับคู่กรณีขับรถโดยประมาท

ดาราหนุ่ม "น็อต อัครณัฐ" เจ้าของวลีดัง "กราบรถกู!" แจ้งความกลับจยย.คู่กรณี ข้อหาขับรถโดยประมาท เผย ต้องชกเพราะป้องกันตัว ล่าสุด แกรมมี่สั่งยกเลิกแถลงข่าวกลัวมีผลต่อรูปคดี

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สน.ยานนาวา หลังสอบปากคำดาราหนุ่ม นายน็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล กว่า 3 ชั่วโมง ต่อมานายอดุล ทินะพงศ์ ทนายความส่วนตัว เปิดเผยว่า ทางลูกความตนได้แจ้งความกลับคู่กรณีในคดีจราจร ซึ่งลูกความของตนนั้นเป็นผู้เสียหายเนื่องจากถูกคู่กรณีชนท้าย และได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว

ทั้งนี้ จากการที่คู่กรณีระบุว่าขณะเกิดเหตุมีรถแท็กซี่มาชนท้ายแล้วรถเสียหลักมาพุ่งชนรถของลูกความตน แต่ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นอย่างที่กล่าวอ้างจริง เหตุใดถึงต้องรีบขับขี่ออกไปจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ โดยรอบที่เกิดเหตุก็ยังมีกล้องวงจรปิดติดอยู่หลายตัว ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบภาพด้วยเพื่อไขข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม ทางลูกความตนได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้เสียทรัพย์ กับชนแล้วหนีต่อคู่กรณีด้วย ส่วนกรณีเรื่องชกต่อยทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอนั้น ในส่วนนี้ก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีจะแจ้งความต่อลูกความตน แต่ยืนยันว่าในขณะเกิดเหตุที่ดาราหนุ่มทำร้ายร่างกายนั้น เนื่องจากต้องการป้องกันตัว ซึ่งระหว่างที่พูดคุยกัน ตัวคู่กรณีเองมีท่าทีคล้ายจะต่อสู้และอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกความตนด้วย

ต่อมา น.ส.สุธิรา หงษ์ทอง มารดาผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในส่วนกรณีที่ดาราหนุ่มแจ้งความดำเนินคดีต่อลูกชายตนฐานขับรถโดยประมาททำให้เสียทรัพย์นั้น เบื้องต้นได้ให้การปฏิเสธ เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีแท็กซี่มาชนท้ายก่อนแล้วหน้าจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวชนรถคู่กรณี โดยในครั้งนี้ฝ่ายตนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บังคับขู่เข็ญและข่มขู่ที่ให้กราบรถของคู่กรณี

ภายหลังจากที่ นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล ดารานักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง เข้าให้ปากคำตำรวจ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ตนยอมรับผิด ขอโทษทั้งสื่อมวลชน พ่อแม่ และคู่กรณีพร้อมครอบครัว ตนไม่ใช่ไม่รับผิดชอบ แต่ได้มาคุยกันที่โรงพักก่อนหน้านี้แล้ว ขอโทษแม่ของคู่กรณีแล้ว และตกลงกันว่าอีกฝ่ายจะไม่เอาเรื่อง เพราะลูกเขาก็ผิด ส่วนตนก็จะแจ้งประกันแบบไม่มีคู่กรณี เพราะน้องคนขับจักรยานยนต์บอกไม่มีตังค์ ซึ่งตอนนั้นแม่ของคู่กรณียังบอกเลยว่าจะช่วยแก้ข่าวเพื่อปกป้องหากโดนสังคมต่อว่า

นายอัครณัฐ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนโดนว่าทั้งวัน มีปาไข่เข้าบ้าน พ่อแม่โดนว่า ร้านอาหารตนโดนว่า ทั้งหมดนี้ว่าที่ตน แต่อย่าลืมตนรับผิดชอบทุกอย่าง ตั้งแต่นาทีแรกที่มาสถานีตำรวจก่อนหน้านี้ ไม่เคยหนีไปไหน ตนยังเป็นเด็กที่น่ารักของสื่อทุกคน ไม่ได้มาสร้างภาพ ทุกอย่างออกมาจากใจ การกระทำแค่ 1 นาทีตรงนั้น อย่าตัดสินตนเลย

ส่วนกรณีให้กราบรถ ตนพยายามเอาน้องลงมาจากมอเตอร์ไซค์ ซึ่งก็ไม่ยอมลงแต่แรก แม้นาทีนั้นน้องบอกขอโทษ แต่นาทีนั้น นั่นคือความฝันของตน ไม่รู้รถเป็นอะไรขนาดไหน ไม่รู้ว่าคู่กรณีจะมีมีดมีปืนหรือเปล่า ตนมีอารมณ์ ไม่ขอโทษตนไม่เป็นไร แต่ให้ขอโทษรถ ซึ่งเวลานั้นไม่มีเวลามาประดิษฐ์คำ ตนผิดที่ใช้อารมณ์ แต่ไม่อยากให้เขาหนี ซึ่งจะหนีหรือเปล่าไม่รู้ แต่สิ่งที่เห็นตอนนั้นคือเขาขับจักรยานยนต์ไปอีกฝั่งแล้วเร่งรถ

นายอัครณัฐ กล่าวต่ออีกว่า ขอร้องทุกคน การพิมพ์ข้อความ การโทรด่า ตนเข้าใจ แต่อย่าทำร้ายคนที่ตนรัก ถ้าเป็นคนรู้เรื่องจริงจะไม่ว่า แต่อย่าตัดสินตนจากแค่ 1 นาทีครึ่ง แล้วมาว่าครอบครัวตน ว่าร้านอาหารตน

เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายโดยทำการแยกสำนวนออกเป็นสองคดีแยกเป็นคดีจราจร และคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งคู่กรณีทั้งสองตกเป็นผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหาในคราวเดียวกัน

โดยหลังจากนี้ตามขั้นตอนนั้นจะประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งนำรถของคู่กรณีทั้งสองไปตรวจสภาพหาร่องรอยความเสียหายที่กองบังคับการจราจร (บก.02) เพื่อนำมาประกอบสำนวน อีกทั้งรอผลตรวจร่างกายของนายกิตติศักดิ์ สิงโต ผู้ขับขี่จักรยานยนต์เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบสำนวนก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ยกเลิกการแถลงข่าวของน็อตแล้วเรียบร้อย เนื่องจากช่วงค่ำวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา น็อตได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ฝั่งคู่กรณีแจ้งความ ขณะที่ฝั่งน็อตก็มีการแจ้งข้อหาเช่นเดียวกัน หากมีการแถลงข่าวในวันนี้อาจจะมีผลต่อรูปคดีได้

ขอขอบคุณข่าวสารจาก สนุกดอทคอม



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://news.sanook.com/2097326/

No comments:

Post a Comment